กาญจนบุรี: สร้างความประทับใจในงานสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่ผ่านไปด้วยดีและต้องฝากไว้ในความทรงจำที่ดีๆ!!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควที่ผ่านพ้นไป องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับ จังหวัดกาญจนบุรี กำหนดจัดงาน ” มนต์เอ๋ย มนต์ไทรโยค คิดถึงวันวาน กาญจนบุรี ยังหวานอยู่ ” และ ” ขอพระองค์ทรงวางพระราชหฤทัย” ถักทอเรียงร้อยพระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตลอดจนบูรพกษัติย์ และบรรพบุรุษไทย ผ่านเสียงเพลงจากคณะนักร้องประสานเสียงวงสวนพลู รางวัลนักร้องประสานเสียงยอดเยี่ม ระดับโลก และคอนเสิร์ตเดอะพาเลซ ชม..การแสดงพลุดอกไม้ไฟ การแสดงบินโดรนแปรอักษรกว่า 500 ลำ ระหว่างวันที่ 4 – 5 ธันวาคม 2567 ณ เวทีการแสดง แสง สี เสียง งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว โดยมี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นางวิมลทิพย์ เวียงสิมมา รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ว่าที่ร้อยตรีศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ นายวุฒิพงศ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมงาน และเป็นประธานในการจัดกิจกรรม
น.พ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เนื่องจาก วันที่ 4 และ 5 ธันวาคม 2567 เวทีกลางน้ำ งดการแสดง แสง สี เสียง เนื่องจากรถไฟหัวจักรไอน้ำ ต้องหยุดพักตามห้วงเวลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้รับหน้าที่จัดกิจกรรมทดแทน ด้วยเล็งเห็นว่า งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว และงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี เป็นงานประจำปี ที่ทุกคนต่างรอคอย ทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ จากทั่วทุกมุมโลก เดินทางมาเที่ยวชมกันอย่างแน่นขนัด สร้างรายได้แก่พี่น้องชาวกาญจนบุรี อย่างมาก นอกเหนือไปจากผู้ประกอบการภายในงานแล้ว เม็ดเงินจำนวนมหาศาลยังสะพัดไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ผ่าน ที่พัก ร้านอาหาร ร้านของฝากภายในจังหวัดฯ ด้วยความสำคัญดังกล่าว องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จึงรับหน้าที่ในการจัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ 4 และ 5 ธันวาคม โดยในวันที่ 4 ธันวาคม จัดคอนเสิร์ต เจาะเวลาหาอดีต กับวงเดอะพาเลซ ส่วน ในวันที่ 5 ธันวาคม นั้น ถือเป็นสำคัญยิ่งต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ ด้วยเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงถือโอกาสนี้ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมให้พสกนิกรชาวกาญจนบุรี และนักท่องเที่ยวที่มาร่วมกิจกรรมในวันอันสำคัญยิ่งนี้ ได้มีโอกาสน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยการเรียงร้อยพระราชกรณียกิจ ของพระองค์ท่าน ตลอดจนวีรกรรมอันหาญกล้า ของบูรพกษัตริย์และ บรรพบุรุษไทย ผ่านการแสดงของสำนักดาบพุทไธสวรรย์ จากพระนครศรีอยุธยา ประกอบเสียงเพลงอันไพเราะจากวงสวนพลู เป็นไปตามคาด 1200 ที่นั่งเต็มทั้ง 2 วัน
ศิลปิน เดอะพาเลซ คุณปุ๊ อัญชลี คุณจิ๊บ ร.ด. คุณต้น แมคอินทอช คุณจี๊ด รอยัลสไปซ์ คุณสายชล อินโนเซ้นท์ มาเติมเต็มความสุขให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มอิ่ม เสียงเพลงจากเดอะพาเลซ ทุกเพลงดังกระหึ่มท้องน้ำ ด้วยเสียงผู้ชมที่ร่วมร้องกับศิลปินแทบทุกเพลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลง มนต์ไทรโยค ซึ่งถือเป็นเพลงชาติของคนเมืองกาญจน์ทุกคนร่วมร้องเพลงนี้อย่างมีความสุข และต่อตัวเป็นรถไฟกันอย่างสนุกสนานอย่างเต็มที ปิดท้ายค่ำคืนแห่งความสุขนี้ ด้วย การบินโดรนแปรอักษร กว่า 500 ลำ โดยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว และ พลุดอกไม้ไฟ ตระการตา
ส่วนบรรยากาศ ในวันที่ 5 ธันวาคม ผมเชื่อว่า ทุกท่านอยู่ในอารมณ์ ความรู้สึกเดียวกัน นั่นคือ ความรู้สึก ซาบซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ และบรรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตลอดจน บรรพบุรุษของเรา ท่านเหล่านั้น ได้เสียสละ ชีวิต แลเลือดเนื้อ เพื่อรักษาแผ่นไทยไว้ให้เรา ได้อยู่อย่างสุขสบายอย่างในวันนี้
เริ่มเปิดเวทีด้วยเรื่องเล่าของ ตำรวจ ต.ช.ด.ผู้ที่ดวงชะตาพาให้ไปรับราชการการยังพื้นที่ ที่ไร้แม้แสงสว่างจากไฟฟ้า เขาพยายามทุกวิถีทาง เพื่อกลับสู่แสงสีศิวิไลซ์ ในตัวเมือง แต่ภาพการทรงงานอย่างมิเห็นแก่เหน็ดเหนื่อยของกรมสมเด็จพระเทพฯ และพระราชดำรัส ที่ทรงฝากให้ตำรวจตระเวนขายแดนดูแลทุกชีวิต ที่นี่…ให้ปลอดภัย เปลี่ยนความรู้สึกของเขาไปตลอดกาล จากนั้น ตามมาด้วย เพลงโรงเรียนของหนู และพระราชาในนิทาน จาก โดยครูและเด็กๆน้องๆชาติพันธุ์กระเหรี่ยง จากโรงเรียน สหคริสเตียนศึกษา อำเภอสังขละบุรี ทุกๆคนฝึกซ้อมและเดินทางไกล ตั้งใจมาถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่อยู่ท้องที่ห่างไกล ทุรกันดาร ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากในหลวงรัชกาลที่ ๙ และพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ โดยไม่เลือกชาติ เลือกภาษา เมื่ออยู่ใต้ร่มพระบารมี ต่างล้วนได้รับพระเมตตาจากพระองค์ท่านอย่างเท่าเทียมกัน
เสียงเพลงจากหัวใจของกลุ่มชาติพันธุ์ แม้จะร้องชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง ตรงคีย์บ้าง ไม่ตรงบ้าง แต่ 2 เพลงนี้ กลับทรงพลัง กรีดลึกลงบนหัวใจ ใครหลายคน จนน้ำตาซึม
จากนั้น สวนพลูคอรัส จึงได้ ถ่ายทอดทุกบทเพลงได้อย่างดื่มด่ำ ตรึงทุกคนไว้กับประวัติศาสตร์ชาติอันน่าภาคภูมิใจ ด้วยพระปรีชาสามารถ ของพระมหากษัตริย์ไทย และความรัก ความสามัคคี ของคนในชาติ จึงพาชาติพ้นภัย และอยู่อย่างมีความสุขบนแผ่นดินของเรา
จากสงครามเก้าทัพ ถึง สงครามมหาเอเชียบูรพา ถูกเรียงร้อยไว้ อย่างน่าประทับใจตลอดช่วงเวลา ที่รับชม และในเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งเป็นเพลงสุดท้าย แสงเทียนเริ่มจุดต่อกัน จากหนึ่ง เป็นสอง จนสว่างใสวไปทั่วทั้งอาณาบริเวณ เสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากพสกนิกรชาวไทย ดังกระหึ่มก้องลำน้ำแคว ด้วยหัวใจอันจงรักภักดี หลังจากสิ้นเสียงปฏิญาณตน ว่า…คนไทย ทุกคน จะสืบต่อที่พ่อสร้าง จะสานต่อทุกอย่างที่พ่อสอน “ขอพระองค์ทรงวางพระราชหฤทัย ” แล้วแล้วจึงร่ำลาผู้ชมด้วยความยิ่งใหญ่ของ พลุดอกไม้ไฟ เต็มท้องฟ้า เพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งใจสร้างความสุข สนุก ซาบซึ้ง ประทับใจ เพื่อให้ทุกท่านในเวทีการแสดงแสงเสียง งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว ในปีนี้ได้สร้าวความประทับใจแก่ผู้ได้ร่วมรับชมภายในงานเป็นอย่างยิ่ง สมกับที่ท่านนายก อบจ.กาญจนบุรี แต้งไว้ในวันแถลงข่าวว่า อบจ.ไม่เคยสร้างความผิดหวัง เมื่อได้ลงมือมาดำเนินการจริงๆ นักท่องเที่ยวฝากไว้ในปีต่อๆไป จะต้องยิ่งใหญ่เช่นนี้
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวาทร์