ราชบุรี – พัฒนาพริกกะเหรี่ยงสู่มะม่วงน้ำปลาหวานส่งขายห้าง
กลุ่มชาวบ้าน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี นำพริกกะเหรี่ยงที่ปลูกในพื้นถิ่น มีคุณลักษณะพิเศษ รสชาติเผ็ดร้อน หอม แตกต่างจากพริกทั่วไป นำมาทำน้ำปลาหวานจิ้มกับผลไม้ ลูกค้าติดใจ มีออเดอร์ส่งขึ้นห้างดังขายทั่วประเทศ
( 28 พ.ค. 67 ) พื้นที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อยู่ติดชายแดนไทย – เมียนมา แถบเทือกเขาตะนาวศรี ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีชาวบ้านทำมาหากิน ปลูกพืชผัก ผลไม้ ปลอดสารไว้กินเอง เหลือจึงจะขาย โดยเฉพาะมะม่วงมีหลากหลายสายพันธุ์ พอแก่จัดขายไม่ทันก็ร่วงหล่นเกลื่อน ด้วยรสชาติของมะม่วงที่มีทั้งความมัน และอมเปรี้ยว เช่น พันธุ์เขียวเสวย เขียวใหญ่ มันขุนศรี แม่ลูกดก และอีกหลายสายพันธุ์ทำให้การขายราคาไม่ค่อยดี
ทำให้นายมาโนช ดลวิศิษย์ถาวร และ นางนิจทยา วิริยะเกษมสุข สองสามีภรรยา ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ปลูกมะม่วงผสมผสานกันผลไม้อื่น ๆ ไว้ประมาณ 30 ไร่ และมีของชาวบ้านอีกจำนวนมาก จึงได้คิดค้นสูตรน้ำปลาหวานที่กินกับมะม่วงหรือผลไม้อื่น ๆ ขึ้นมา โดยใช้พริกกะเหรี่ยงที่ปลูกในพื้นถิ่น มีราคาค่อนข้างแพง หากช่วงที่พริกมีราคาแพงราคาประมาณกิโลกรัมละ 400 – 500 บาท เป็นพริกที่มีคุณลักษณะพิเศษแตกต่างจากพริกทั่วไป จะมีความเผ็ดหอม ยิ่งกินก็ยิ่งจะมีรสชาติเผ็ดขึ้นเรื่อย ๆ ที่สำคัญยังมีประโยชน์เพราะสารแคปไซซิน หรือ น้ำมันหอมระเหย ช่วยลดคอลเลสเตอรอลในเลือด ขับเสมหะ ช่วยให้จมูกโล่ง ช่วยลดน้ำหนัก พริกกะเหรี่ยงยังมีวิตามินซี ที่ทำหน้าที่เป็นแอนติออกซิแดนซ์ ซึ่งออกฤทธิ์ต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง เมื่อนำมาปรุงใส่ในน้ำปลาหวานกับเครื่องปรุงต่าง ๆ ทำให้รสชาติหวาน เผ็ด หอม กินกับมะม่วงที่ออกอมเปรี้ยวเล็กน้อยทำถูกปาก ถูกใจ กับเพื่อนบ้าน จนกลายมาเป็นสินค้าของดีที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวสนใจเลือกซื้อไปรับประทานกับมะม่วงและผลไม้อื่น ๆ อีกหลายชนิด
นางนิจทยา วิริยะเกษมสุข เจ้าของสูตรน้ำปลาหวานพริกกะเหรี่ยง กล่าวว่า ในกลุ่มจะมีการปลูกมะม่วงแทบทุกบ้าน ซึ่งที่บ้านก็ปลูกมะม่วงไว้ประมาณ 30 ไร่ มีหลายสายพันธุ์ พอนำมะม่วงมากินคู่กับน้ำปลาหวานปรุงจากพริกกะเหรี่ยงแล้วไม่สามารถหยุดได้ ในสูตรใส่กุ้งเนื้อปั่น และมีกุ้งฝอยพร้อมเครื่องปรุงอีกหลายอย่าง สิ่งที่ทำให้น้ำปลาหวานแตกต่างจากที่อื่นนั้นคือจะใช้พริกกะเหรี่ยงเป็นวัตถุดิบทำให้มีรสชาติอร่อย คุณสมบัติคล้ายกับพริกทั่วไปคือ มีความเผ็ด แต่พริกกะเหรี่ยงกินไปแล้วจะค่อย ๆ เพิ่มความเผ็ดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดความอยากในการรับประทานอีก นอกจากนี้ยังมีความหอม เมื่อมาเจอความหอมของกุ้งคุณภาพดี ทำให้กลิ่นหอมจากกุ้งกับพริกกะเหรี่ยงผสมให้น้ำปลาหวานโดดเด่นไม่เหมือนกับที่อื่น
ที่นี่ปลูกมะม่วงกันมาก เวลาออกลูกมาเยอะส่วนใหญ่จะนำไปกวนเป็นมะม่วงแผ่น และนำออกขายกัน บางส่วนจึงเก็บมะม่วงที่ยังดิบอยู่นำไปขายที่ตลาดก็จะได้ราคาถูก แต่ถ้านำมากินคู่กับน้ำปลาหวานที่ทำขึ้น นำไปจำหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยวใน อ.สวนผึ้ง และออกงานต่าง ๆ ตอนนี้ได้รับความสนใจจากห้างซีเจ ติดต่อเข้ามาให้นำไปวางจำหน่าย โดยจะมีการทดลองขายอยู่ประมาณ 41 สาขา หลังผ่านจาก 3 เดือนแล้ว จะขยายการขายเพิ่มอีกรวมเป็น 1,200 สาขาทั่วประเทศ
สำหรับการทำน้ำปลาหวานให้เตรียมเครื่องปรุง เช่น หัวหอมหั่นฝอย กุ้งฝอย พริกกะเหรี่ยง น้ำตาลปึก น้ำปลา โดยนำน้ำเปล่าและน้ำตาลมาเคี่ยวไปเรื่อย ๆจากนั้นใส่หอมที่สับละเอียดลงไปคนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่กุ้งเนื้อบด กุ้งฝอยตามลงไป จึงใส่พริกกะเหรี่ยง คนไปเรื่อย ๆ นานประมาณ 40 – 45 นาที ด้วยความร้อน จะเริ่มมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกุ้งฝอยและพริกกะเหรี่ยงโชยออกมา ใช้การเคี่ยวไฟกลาง และค่อย ๆ ลดเหลือไฟอ่อนลง เมื่อครบเวลาให้ยกลงจากเตาทิ้งไว้ให้เย็นเป็นกรรมวิธีการทำเรียบร้อยเตรียมใส่กระปุกจำหน่าย
สำหรับผู้สนใจหาซื้อพริกกะเหรี่ยงน้ำปลาหวานได้ตามปั๊มน้ำมัน แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ห้างซีเจบางสาขา ร้านก๋วยเตี๋ยวนายเนี้ยบ พุทธมณฑลสาย 4 ร้านของฝากดอยคำ และอีกหลายแห่ง สนใจติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 095-1506159
พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี